
- ผู้ดูแลระบบ
- Dec 04, 2023
- เคล็ดลับการดูแลรถ
ซื้อรถมือสองควรดูอะไรบ้างก่อนตัดสินใจ
ซื้อรถมือสองควรดูอะไรบ้างก่อนตัดสินใจซื้อ
การซื้อรถมือสองเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครหลายคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อรถใหม่ แต่การซื้อรถมือสองนั้นก็มีความเสี่ยงมากกว่าการซื้อรถใหม่อยู่บ้าง ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลและตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสอง ควรดูอะไรบ้างบ้างนั้น มาดูกันครับ
1. กำหนดงบประมาณและตรวจสอบราคารถ
สิ่งแรกที่ควรทำก่อนซื้อรถมือสองคือการกำหนดงบประมาณให้ชัดเจน โดยควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความสามารถในการผ่อนชำระ ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถ ค่าน้ำมัน ค่าประกันภัย เป็นต้น จากนั้นจึงทำการสำรวจราคารถมือสองรุ่นที่ต้องการในท้องตลาด เพื่อให้มั่นใจว่าราคาที่เสนอนั้นอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้
2. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับรถ
นอกจากการกำหนดงบประมาณแล้ว ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับรถรุ่นที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทั่วไป เช่น ยี่ห้อ รุ่นย่อย เครื่องยนต์ ระบบความปลอดภัย ไปจนถึงข้อมูลเชิงลึก เช่น ปัญหาที่พบบ่อย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง เป็นต้น เพื่อให้เข้าใจรถรุ่นที่ต้องการอย่างถ่องแท้ และตัดสินใจซื้อได้อย่างมั่นใจ
3. ตรวจสภาพรถอย่างละเอียด
การตรวจสภาพรถอย่างละเอียดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการซื้อรถมือสอง โดยควรตรวจสภาพทั้งภายนอกและภายในรถ ดังนี้
- สภาพภายนอกรถ ควรตรวจดูรอยขีดข่วน สีรถ รอยบุบ รอยเชื่อมตะเข็บตัวถัง ล้อแม็ก เป็นต้น หากพบรอยหรือความเสียหายใดๆ ควรสอบถามจากเจ้าของรถถึงสาเหตุและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
- สภาพภายในรถ ควรตรวจดูสภาพเบาะนั่ง พวงมาลัย คอนโซลหน้า อุปกรณ์ต่างๆ ว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ หากพบรอยขาด รอยเปื้อน หรือชำรุด ควรสอบถามจากเจ้าของรถถึงสาเหตุและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
- สภาพเครื่องยนต์ ควรสตาร์ทเครื่องยนต์และฟังเสียงเครื่องยนต์ว่าทำงานปกติหรือไม่ หากพบเสียงผิดปกติ เช่น เสียงดัง เสียงเครื่องสั่น ควรสอบถามจากเจ้าของรถถึงสาเหตุ
- สภาพระบบเกียร์ ควรทดสอบการขับขี่ในเกียร์ต่างๆ โดยสังเกตว่าเกียร์เปลี่ยนได้นุ่มนวลหรือไม่ หากพบเกียร์ติดขัดหรือเปลี่ยนเกียร์ยาก ควรสอบถามจากเจ้าของรถถึงสาเหตุ
- สภาพระบบเบรก ควรทดสอบเบรกโดยการเหยียบเบรกอย่างแรงจนรถหยุด โดยสังเกตว่าเบรกทำงานปกติหรือไม่ หากพบว่าเบรกจับไม่อยู่ ควรสอบถามจากเจ้าของรถถึงสาเหตุ
- สภาพระบบช่วงล่าง ควรทดสอบการขับขี่บนถนนที่มีผิวขรุขระ โดยสังเกตว่าช่วงล่างทำงานปกติหรือไม่ หากพบเสียงดังหรือช่วงล่างแข็งกระด้าง ควรสอบถามจากเจ้าของรถถึงสาเหตุ
4. สอบถามประวัติรถ
ควรสอบถามประวัติรถจากเจ้าของเดิมหรือผู้ขาย เช่น ประวัติการซ่อมบำรุง อุบัติเหตุต่างๆ เพื่อให้เข้าใจถึงสภาพรถและสามารถประเมินราคาได้แม่นยำยิ่งขึ้น
5. ต่อรองราคา
เมื่อตรวจเช็คสภาพรถจนมั่นใจแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการต่อรองราคากับเจ้าของเดิมหรือผู้ขาย โดยควรศึกษาราคารถมือสองรุ่นที่ต้องการจากแหล่งต่างๆ มาก่อน เพื่อจะได้ต่อรองราคาได้อย่างเหมาะสม
6. เซ็นสัญญาซื้อขาย
เมื่อตกลงราคากันได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเซ็นสัญญาซื้อขาย ซึ่งควรตรวจสอบรายละเอียดในสัญญาให้รอบคอบ โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับรถ ข้อมูลผู้ซื้อและผู้ขาย เงื่อนไขการชำระเงิน เป็นต้น
7. ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์
เมื่อเซ็นสัญญาซื้อขายแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์รถ โดยควรติดต่อกรมการขนส่งทางบกเพื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์และจดทะเบียนรถใหม่
ข้อควรระวังในการซื้อรถมือสอง
- อย่าเชื่อคำพูดของเจ้าของเดิมหรือผู้ขายเพียงอย่างเดียว ควรตรวจเช็คสภาพรถด้วยตนเองหรือให้ช่างผู้ชำนาญตรวจสอบให้
- อย่ารีบตัดสินใจซื้อรถ ควรเปรียบเทียบราคาและข้อมูลรถจากแหล่งต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ
- อย่าจ่ายเงินสดเต็มจำนวน ควรผ่อนชำระผ่านไฟแนนซ์ เพื่อจะได้มีหลักฐานการซื้อขายที่ชัดเจน
การจะซื้อรถมือสองให้คุ้มค่าและปลอดภัยนั้น จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ซื้อรถที่มีปัญหาหรือจ่ายราคาที่เกินจริง
ความคิดเห็น